วันอาทิตย์ที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2557

Hot Hot Hot in Thailand!

Now, is a summer season in Thailand. It's very hot too much, like 39-40 degree.

It's very sunny. I want to have rain. 

The fan is going hot not cool.

I want some soda to drink.

I want to go to waterfalls.

Please, Cool

วันอังคารที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2557

ฉันอยากให้ความฝันมันเป็นจริง

คืนก่อน...ฉันฝันถึงอย่างหนึ่ง
ความฝันนั้นมันช่างค้างคาใจฉัน

ฉันอยากให้มันเป็นจริงหรือให้ใกล้เคียง


มันยากมากกว่าจะเจอใครสักคน

ขอให้ฝันนั้นเป็นจริง

วันเสาร์ที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2557

Happy Thai New Year. (Song kran festival)

Today is a Songkran'Day for Thai people. Like Thai New Year,Song kran during April 13-15th.For Thai people,they back to hometown for celebrate with their family. Songkran that amazing for me (Im Thai).It make me to meet with my counsin and my beother(Don't meet about 7 year)

I feel great,when Songkran festival is coming.

Songkran'Day is a shock and best culture, I ever know

วันศุกร์ที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2557

นาฬิกาหมุน

นาฬิกาหมนุเวียนมาให้เรานั้นเจอกัน
แม้ว่าจะยืนอยู่ห่างกันสักแค่ไหน
เพียงแค่เราสังเหตุบางสิ่งบางอย่างได้
เราก็จะจำเขาได้

นาฬิกาชีวิตช่างเป็นนาฬิกาที่มีค่า
มันไม่สามารถเทียบราคาว่าแพงมากหรือแพงน้อย

มันกำหนดตรงที่ว่า
"เราจะจัดการยังไงกับนาฬิกาชีวิตให้คุ้ม"

นาฬิกามันคงหมุนต่อไป
อย่างไม่มีวันสิ้นสุด

เรียนภาคฤดูร้อนแสนพิเศษ

ฉันเริ่มเรียนภาคฤดูร้อนหรือเรียกง่ายๆว่า ซัมเมอร์ ฉันต้องเรียนเนื่องจากยังเก็บในบางกลุ่มยังไม่หมด จึงต้องรีบเก็บไว้ให้หมดก่อนที่จะหาโอกาสลง

ฉันต้องตื่นแต่เช้าตรู่ และนั่งรถเมล์จากบ้านไปยังมหาวิทยาลัยประมาณ 20 กิโลฯ ซึ่งอยู่คนล่ะอำเภอจากบ้านและมหาวิทยาลัย

ฉันอยากลองพิสูจน์ตัวตนของฉันว่าเป็นคนอดทน มีความมุ่งมานะในการเรียนมากขนาดไหน เมื่อฉันไปเรียนฉันไม่ได้นำรถมอเตอร์ไซต์ไปใช้ แต่ฉันต้องเดิน และระยะทางในแต่ล่ะสถานที่ของมหาวิทนยาลัยฉันนั้นช่างห่างกันมากเหลือเกิน นอกจากว่าฉันนั้นมีทางลักที่ดีๆสักทาง

การเรียนภาคฤดูร้อนเริ่มขึ้น ฉันต้องพบเจอบุคคลมากมายเช่นเดิม บทเรียนใหม่ ซึ่งสามารถนำมาใช้ในชีวิตของฉันได้อย่างไม่มากหรือน้อย

วันศุกร์ที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2557

ฉันคิดถึงบ้านเมืองของฉันแต่ก่อน ฉันไม่ชอบชีวิตที่วุ่นวายในปัจจุบัน

ฉันอาศัยอยู่จังหวัดที่เป็นเมืองใหญ่
มีศูนย์การค้ามากมาย มีแหล่งการศึกษาที่ล้ำหน้าในภาคอิสาน
พร้อมกับชีวิตที่วุ่นวายของคนเมือง

หลายครั้งฉันอยากจะไปอาศัยอยู่ที่ต่างอำเภอ
หลายครั้งฉันชอบชีวิตของคนต่างอำเภอมากกว่า
คนต่างอำเภอเป็นคนที่ชีวิตที่เรียบง่าย
มีน้ำใจมากกว่าคนในเมือง

การกินอาหารที่ไม่จำเป็นต้องแพง
อาหารพื้นบ้านที่กินเรียบง่าย
สามารถแบ่งปันให้เพื่อนบ้านได้

ได้เห็นดาวทุกค่ำคืน
ได้เห็นธรรมชาติสีเขียวทุกวัน
ชีวิตที่ไร้คาร์บอนไดร์ออกไซต์

ตอนนี้ชีวิตคนเมืองของฉัน
มันช่างแสนวุ่นวายนัก
แม้ว่ายังไม่เคยไปใช้ชีวิตในกรุงเมพฯอย่างจริงจัง
แต่มันก็ไม่ต่างจากอุบลฯ

หลายวัฒนธรรมเริ่มหายไป
คนรุ่นใหม่เริ่มไม่สนใจสิ่งที่คนดั้งเดิมสั่งสมไว้
แต่กลับโยนทิ้ง

ชีวิตเมืองแต่ก่อนช่างเรียบง่าย
แต่ตอนนี้ชีวิตเมืองช่างวุ่นวาย
แม้ว่าฉันเกิดและอาศัยอยู่ในตัวเมืองมาตั้งแต่เกิดก็็ตาม

ฉันอิจฉาคนต่างอำเภอ!